วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2554

大学生

みなさん こばんは กลับมาแล้วจ้า หลังจากที่ไปอยู่โฮมสเตย์มา สามวันสองคืน ได้เรียนรู้และได้เจออะไรหลายๆอย่างมากมาย มีทั้งดีและไม่ดี วันนี้จะเล่าให้ฟัง ขอเริ่มที่เรื่องไม่ดีก่อนล่ะกันนะ หยกเองได้ไปมหาวิทยาลัย โดชิชะ ที่เมืองเกียวโต เป็นมหาวิทยาลัยหญิงล้วน ไปกับเพื่อนชาวไต๋หวัน ชือเอ
พอไปถึง หยกเองก็ไม่รู้ว่าก่อนเลยว่าบ้านที่หยกต้องไปอยู่ไม่ใช่นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยนั้น มารู้อีกทีตอนจะกลับบ้านซึ่งหยกต้องกลับเอง มีแค่แผนที่ป้ายรถเมล์บอก และร่างมาว่าบ้านเป็นสี่เหลี่ยนเท่านั้น ตอนนั้น น้ำตาแทบไหว ไหวแล้วแหละ เพราะถึงหยกนั่งรถไปลงป้ายถูกแล้วจะไปรู้ได้ไงว่าบ้านอยู่หลังไหน เป็นอะไรที่เครียดมาก และในมหาลัยก็มีเพื่อนชาวอเมริกาที่ได้นอนบ้านเดียวกัน แต่พอเลิกเรียนอาจารย์บอกคนอเมริกาว่าให้กลับกับหยก แต่ พอเดินออกมาเค้าบ่นคนเดียวแล้วบอกว่าทำไมต้องนั่งรถเมลล์เค้าจะขับจักรยานกลับ ไม่มีเหตุผลที่ต้องพาไปส่ง เค้าพูดเป็นภาษาอังกฤษกับเพื่อนเค้าแต่หยกกับเอได้ยิน เอก็คอยปลอบใจว่าหยกไม่เป็นไรนะ เค้าเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่เจอในญึ่ปุ่นและเป็นคนเดียวที่ไม่มีน้ำใจเอาซะเลย ใจดำที่สุด อารมณ์นั้นหยกโทรหาแม่และน้ำตามันก็ไหลออกมา เอก็ถามเค้าว่าขับจักรยานไปช้าๆได้ไหมเพื่อนไปบอกว่าขึ้นรถป้ายไหนก็ยังดี แต่เค้าบอกว่าไม่อยากไปทางนั้น เค้ารักที่จะไปอีกทางหนึ่ง แล้วย้อนกลับมาถามหยกว่าจะมาอยู่กี่วันกันนี่ ตอนนั้นหยกก็โมโหเลยตอบเป็นภาษาอังกฤษไปหาไม่ต้องหว่งหรอกฉันอยู่แค่สามวัน สามวันเท่านั้น จากนั้นเค้าก็เลยพาไปหาคนที่ดูแลที่มหาลัยเค้าเลยพาไปส่งขึ้นรถเมล์ซึ้งป้ายรถไกลมาก ถ้าหาเองคงไม่เจอง่ายๆ แต่เมื่อกลับไปถึงบ้านแทบตกใจเพราะบ้านหลังนี้รับคนมาอยู่โฮมสเตย์ด้วยรวมหยกเป็นห้าคน อะไรกันเนี่ย บางคนมาจากมาเลเซีย มาอยู่เป็นปีเลยทีเดียว มาอยู่โฮมสเตย์ที่นี่เพื่อนคนอื่นๆได้ภาษากลับมากันเยอะแยะ แต่หยกเองแทบไม่ได้เลยเพราะเหมือนบ้านหลังนี้รับคนมาอยู่ด้วยเยอะมากและไม่ได้คุยไรกันมากเท่าไหร่ และไม่ค่อยมีใครคุยกันด้วยเหมือนต่างคนต่างอยู่ แต่มันก็ผ่านมาแล้วจะถือว่าเป็นประสบการณ์สิ่งหนึ่งที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ผ่านมาในชีวิตในช่วงหนึ่งเท่านั้น ภายในเรื่องที่ไม่ดีก็ยังคงมีเรื่องที่ดีๆแอบอยู่เสมอ เรื่องดีๆก็คือ ในขณะที่หยกเองเจอเหตูการณ์แย่ๆเองก็มีเอนี่แหละที่ดีกับหยกมาก คอยปลอบใจและบอกว่าไม่เป็นไรนะ สู้ๆ ในช่วงเวลาที่ออกมาเดินหารถเมลล์เอถามอาจารย์ว่าฉันยังพอมีเวลาเหลือไหมฉันจะไปบอกเค้าว่าต้องไปอย่างไร เพราะเอเป็นคนไต๋หวันซึ่งแน่นอนว่าอ่านคันจิออกทุกคำ เวลาเรียนหยกไม่ค่อยเข้าใจเอก็จะช่วยอธิบายเป็นคำง่ายๆให้หยกเข้าใจ คอยถามและบอกว่าสู้ๆนะ สู้ไปด้วยกัน และบอกว่าเรื่องคนอเมริกาไม่ต้องไปใส่ใจมากแค่คนไม่มีน้ำใจคนหนึ่ง แต่หยกเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเค้าไม่ให้แต่นักศึกษาในมหาลัยรับโฮมสเตย์ทำไมต้องเป็นคนอื่นและมีแค่หยกคนเดียวเท่านั้นเอง เพื่อนคนอื่นๆกลับมาเล่าให้ฟังว่าคุยกันอย่างโน้นอย่างนี้สนุกมากแต่หยกเองแทบไม่ได้คุยเอง มาอยู่ก็เหมือนไม่ได้อยู่เหมือนไม่มีตัวตนเลย แต่ก็ช่างเถอะ แต่เวลาเรียนเพื่อนชาวญี่ปุ่นก็ดูแลเราเป็นอย่างดีดีมากเลยทีเดียว เพื่อนๆทุกคนดูสนใจภาษาไทยมาก ในเขียนชื่อให้ ให้สอนพูดนิดหน่อย น่ารักดี อ่อ นักศึกษามหาลัยที่ญุ่ปุ่นใส่ชุดอะไรมาเรียนกันก็ได้ ดีจังเลย อากาศก็เริ่มหนาวมากเลยด้วยที่นี่ ก็หยกเองก็ชอบนะเย็นสบายดี เรื่องดีๆยังมีให้เล่าอีกเยอะ แต่วันนี้ขอตัวไปทำการบ้านก่อนนะค่ะ วันหน้าจะมาเล่าให้ฟังอีก สู้ๆนะค่ะเพื่อนๆ いっしょにがんばります。
หยกเขียนค่า

3 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ9 ตุลาคม 2554 เวลา 21:14

    ごくろうさまでした。
    あとすこしです。がんばってね。

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ10 ตุลาคม 2554 เวลา 06:59

    ลำบากหน่อยเนอะน้องหยก
    อดทนนะจ๊ะ สู้ สู้
    พี่เป็นกำลังใจให้นะ

    พี่ตุ๊ก

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ12 ตุลาคม 2554 เวลา 04:41

    はい、ありがとうごさいます。

    ตอบลบ